สถิติ
เปิดเมื่อ12/10/2012
อัพเดท22/10/2016
ผู้เข้าชม370968
แสดงหน้า433333

 

รับสมัครงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย จำนวนหลายอัตรา และผู้จัดการหน่วยฝึกหัด ทั้งชายและหญิง วุฒิปริญญาตรี สนใจติดต่อที่คุณติ๊ก 087-4757587



 

จดหมายข่าว
โพล




วางแผนภาษีอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อ่าน 580 | ตอบ 0
วางแผนภาษีอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
 

เป็นหน้าที่อีกหนึ่งอย่างสำหรับผู้มีรายได้ทุกคน คือการเสียภาษีเงินได้ให้กับรัฐบาล ซึ่งโดยปกติแล้วต้องยื่นแบบภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ภายในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี แต่ถ้าเรารู้จักวางแผนภาษีให้ดี เราก็สามารถนำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีอยู่หลายช่องทางด้วยกันที่อาจช่วยให้คุณได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตัวอย่างค่าใช้จ่ายทีสามารถนำมาลดหย่อนทางภาษี มีดังนี้


1. เงินสมทบกองทุนประกันสังคม
พนักงานบริษัทหรือลูกจ้างในระบบประกันสังคม จะถูกหักเงินเพื่อสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งใน 1 ปีจะสามารถนำยอดที่สมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 9,000 บาทต่อปี

2. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
หากบริษัทของคุณมีการหักเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพทุก ๆ เดือน นอกจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่จะได้รับแล้ว เงินสะสมดังกล่าวยังได้รับการลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 500,000 บาทสำหรับปีภาษีนั้น

3. เบี้ยประกันชีวิต
เงินที่คุณส่งค่าเบี้ยประกันชีวิตในแต่ละปี ตามกฎหมายแล้วสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึงปีละ 100,000 บาท สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หลายคนอาจจะกลัวคนขายประกัน แต่ตอนนี้ทราบข้อดีของประกันชีวิตเพิ่มจากการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพแล้ว ลองมองประกันด้วยมุมมองใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

4. RMF
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นการซื้อหน่วยลงทุนระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ เงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในการลงทุนที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินที่ใช้ในการซื้อหน่วยลงทุนประเภทนี้สามารถนำมาหักลดหย่อยภาษีได้สูงถึง 500,000 บาทต่อปี (เมื่อรวมกับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยวชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน)

 

5. LTF
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว เป็นการซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ใช้ในการซื้อหน่วยลงทุนมาลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ในอัตราสูงถึง 500,000 บาทต่อปี (ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมิน)

 

6. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในการซื้อที่อยู่อาศัย
ผู้ที่กู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสามารถหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี (กรณีที่ผู้มีเงินได้กู้ยิมคนเดียว)

 

7. เงินบริจาค
ใบอนุโมทนาบัตรจากการบริจาคเงินให้วัดสามารถนำมาลดหย่อนได้เต็มจำนวน แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ของคุณหลังหักลดหย่อนภาษีตามกรณีต่าง ๆ แล้ว

 

เห็นไหมคะว่ามีช่องทางมากมายที่จะช่วยให้คุณได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ เพียงคุณวางแผนให้ดี เลือกลงทุนหรือใช้จ่ายในเงื่อนไขที่ทำให้คุณสามารถนำค่าใช้จ่ายส่วนนั้นมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้

 

หมายเหตุ ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อสรุปเบี้องต้นเท่านั้น สำหรับรายละเอียด หรือเงื่อนไขต่างๆ ของการใช้สิทธิในการหักลดหย่อน ภาษี กรุณาศึกษาเพิ่มเติมจากกฎระเบียบของกรมสรรพากร

(Credit: บทความจาก JobDB.com)

 
 
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :